Prepare for your trip to Japan. [ Travel ] เตรียมพร้อมไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน !!

สำหรับบทความนี้ ผมจะมาแนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนะครับ
ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของผมเลยถ้าผมจะไปเที่ยวต่างประเทศ
คงเป็นญี่ปุ่นนี้แหละครับ
เป็นหมู่เกาะที่น่าหลงใหลมีเสน่ห์ มีอาหารทะเลกินตลอดปี
"โอว สุโค่ยๆ !!" และวัฒนธรรมการกินที่มีเอกลักษณ์
หิมะตก อากาศ หนาว และที่สำคัญ อยากเจอ AV Girls, Japan Girls. สวยๆด้วย ^^
ขอขอบคุณ http://www.yokosojapan.org/ เป็นอย่างสูง
มาเริ่มกันที่ สิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง

หนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าญี่ปุ่น
หนังสือเดินทางมีอายุที่ใช้งานมากกว่า 6 เดือน
ดูรายละเอียดการทำหนังสือเดินทางได้ที่ http://www.consular.go.th/ ขอวีซ่า
จากสถานทูต
ญี่ปุ่นโปรดเตรียมเอกสารหลักฐานที่ระบุไว้
ในการขอวีซ่า และกรอกรายละเอียดให้ครบ
ถ้วนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทราบผลวีซ่า
อย่างเร็วใน 2 วันทำการ หรือมากกว่า
โปรดเผื่อเวลาในการยื่นวีซ่า ไม่ควรยื่นใกล้วันเดินทางอย่างกระชั้นชิด โปรดสอบถามได้ที่สถานทูตฯ
ญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลญี่ปุ่น
ประจำเชียงใหม่

ยื่นขอวีซ่าได้ที่:
กรุงเทพฯ:
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำ
ประเทศไทยในกรุงเทพฯที่อยู่:
177 ถนนวิทยุ ลุมพินีปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์: แผนกวีซ่า
0-2207-8503 / 0-2696-3003
โทรสาร: 0-2207-8511
เวลารับคำร้องขอวีซ่า: 08:30 น. - 11:15 น.
วันหยุด วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด

และในอนาคตอันใกล้นี้ ทางสถานทูตฯ
มีกำหนดให้บุคคลทั่วไป ยื่นขอวีซ่า
ได้ที่ศูนย์รับยื่นขอวีซ่า
JVAC (Japan Visa Application Center)

เวลาทำการ
- วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.
- วันเสาร์ ระหว่างเวลา 8:30 - 12:30 น.
(คืนหนังสือเดินทางเท่านั้น)
ที่ทำการ: อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15
(มีทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง)
เลขที่ 191 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์: 02-632-1541

Email: info.inja@vfshelpline.com
โปรดสอบถามทางสถานทูตฯ อีกครั้งก่อนที่
คุณจะไปยื่นขอวีซ่า

เชียงใหม่:
สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
ที่อยู่: อาคารแอร์พอร์ต บิสซิเนสปาร์ค
ห้อง 104-107 ถนนมหิดล ตำบลหายยา
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
โทรศัพท์ : 053-203367
ฝ่ายวีซ่า: เบอร์โทรศัพท์ติดต่อภายใน
101 (ภาษาญี่ปุ่น), 102 (ภาษาไทย)
โทรสาร: 053-203373
เวลารับคำร้องขอวีซ่า เวลายื่นคำร้อง
ขอวีซ่า : 08:30-12:00 เวลารับวีซ่า
: 13:00-16:00
วันหยุด วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด

รายละเอียดในเรื่องของการขอวีซ่า
: www.th.emb-japan.go.jp/th
(หลังจากเข้าเว็บไซต์ให้คลิกที่ "แผนกกงสุล")
พิมพ์คำร้องได้จากเว็ปไซท์ : www.th.emb-japan.go.jp/img/visaform.pdf
เงินสด
โดยทั่วไปการนำเงินสดติดตัวไปใช้
ในญี่ปุ่นปลอดภัยและสะดวกใช้ด้วย
เวลาใช้ยานพาหนะขนส่งมวลชน
เกือบทุกรูปแบบจำเป็นต้องใช้เงินสด
จำนวนไม่สูงนักหรือเวลาไปรับประทาน
อาหารราคาไม่แพงนอกจากนี้ยังใช้ซื้อ
ของเล็กๆน้อยๆสะดวกอีกด้วย

เงินตราและอัตราแลกเปลี่ยน
เงินเหรียญที่ใช้กันในญี่ปุ่นมีราคา 1, 5, 10, 50,
100 และ 500 เยนตามลำดับ ธนบัตรมีใช้ราคา
1,000 5,000 และ 10,000 เยน เงินสกุลอื่นๆ
ที่นำเข้าไปในญี่ปุ่น จะแลกเป็นเงินเยนได้
ที่ศูนย์แลกเปลี่ยน เงินตรา ในท่าอากาศยาน
ที่เดินทางไปถึงหรือแลกได้ตามธนาคาร
ในเมืองต่างๆ อัตราแลกเปลี่ยนขึ้นๆ ลงๆ
ทุกวัน ธนาคารส่วนมากจะมีป้ายบอกราคา
อัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน ติดไว้ให้เห็นชัดเจน
ดังต่อไปนี้ เงินเหรียญสหรัฐปิดประกาศ
เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เงินสกุลอื่นๆ
จะปิดประกาศอัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน
ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ไปจนถึง 15.00 น.
โปรดแลกเงินของท่านตามช่วงเวลาที่ระบุไว้นี้
เพื่อป้องกันความขลุกขลัก
การแลกเงิน
สถานที่และบริการต่อไปนี้ ไม่สามารถรับเงิน
ตราต่างประเทศได้ตาม กฎข้อบังคับคือ
พาหนะขนส่งมวลชนสาธารณะ ห้างร้าน
ร้านค้า และภัตตาคาร ดังนั้น ท่านจึงจำเป็น
ต้องมีเงินสดสกุลเงินเยนบ้าง เพื่อใช้จ่าย
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน หากท่านมีธนบัตร
เงินต่างประเทศสกุลอื่นๆ ที่มิใช่ดอลล่าร์สหรัฐ
ควรจะแลกบางส่วนเป็นเงินเยนเอาไว้บ้าง
ตั้งแต่ยังไม่ออกจากท่าอากาศยาน
แม้แต่ตามธนาคาร ชั้นนำบางแห่งในเมืองใหญ่
พนักงานประจำเคาน์เตอร์แลกเงิน
ก็ยังไม่สู้จะคุ้นเคยนัก กับลักษณะของ
ธนบัตรต่างประเทศ และท่านอาจจะต้องรอนาน
เพราะเขาจะต้องขอคำแนะนำจากหัวหน้า
จนมั่นใจก่อน ที่ธนาคารเช็คเดินทางสามารถ
แลก เงินสดได้เร็วทันใจ แต่ก็มีร้านค้าและ
ภัตตาคารบางแห่งยอมรับเหมือนกัน
เงินเยนเหลือใช้ ที่เป็นธนบัตรเท่านั้น
ที่จะสามารถแลกกลับคืนเป็นเงินตรา
ต่างประเทศได้ ที่ท่าอากาศยานก่อน
ออกจากญี่ปุ่น โดยไม่จำกัดจำนวน
ถ้าหากว่าศูนย์รับแลก เปลี่ยนเงินตราที่นั่น
มีเงินตราต่างประเทศสำรองไว้มากเพียงพอ
สำหรับแลกกลับคืนรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/essential/money.html
เช็คและบัตรเครดิต
ไม่ค่อยมีที่ใช้เช็คส่วนตัวในญี่ปุ่น ท่านควรจะ
ซื้อเช็คเดินทาง เป็นเงินเยน ซึ่งมีขายตาม
ธนาคารญี่ปุ่นสาขาในประเทศไทยก่อน
ออกเดินทาง เมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นใช้บัตรเครดิต
กันแพร่หลายร้านค้าและภัตตาคารที่ยอมรับ
บัตรเครดิต ชำระค่าสินค้าและค่าอาหารมัก
จะติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่หน้าร้าน หรือขึ้นป้าย
ให้เห็นตามสถานที่ต่างๆ ระบุยี่ห้อของ
บัตรเครดิตที่ตนยอมรับ ญี่ปุ่นปัจจุบันนี้
กำลังนิยมใช้บัตรต่างๆ ที่จ่ายเงินล่วงหน้าไว้แล้ว
เช่น บัตรโทรศัพท์และอื่นๆ อย่างแพร่หลายมาก
ทำให้ญี่ปุ่นกำลังจะกลายเป็น
"สังคมที่ไม่ใช้เงินสด" มากขึ้นทุกที

การถอนเงินสดจากบัตร ATM
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/essential/money.html
การประกันภัยระหว่างการเดินทาง
ท่านควรจะทำการประกันภัยระหว่างเดินทาง
ก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย
กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุโดยทั่วๆ ไป
จะครอบคลุมไปจนถึงทรัพย์สินส่วนตัวสูญหาย
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดบาดเจ็บ
หรือเจ็บป่วย และประกันความเสี่ยงชนิดอื่นๆ
ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทาง
ใบอนุญาตขับขี่สากล
หากท่านประสงค์จะขับรถเที่ยวเองระหว่าง
อยู่ในญี่ปุ่น จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่สากล
ที่ได้รับจากประเทศไทยก่อนเข้าไปในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดีบางประเทศ เช่น เยอรมันและ
สวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีการตกลงกับญี่ปุ่น
ในเรื่องใบขับขี่สากล แต่ท่านที่ถือใบขับขี่
สากลที่ออกให้โดยประเทศสมาชิกของ
สนธิสัญญาเจนีวา จะใช้ใบขับขี่นั้นได้เมื่อ
อยู่ในญี่ปุ่น สมาพันธ์ยานยนตร์แห่งญี่ปุ่น
(เจแปน ออโตโมบิล เฟดเดอเรชั่น)
ได้พิมพ์หนังสือคู่มือชื่อ "กฎข้อบังคับในการใช้ถนน"
เพื่อแนะนำการขับขี่ยานยนตร์ในญี่ปุ่น
(เป็นภาษาอังกฤษ) หากสนใจโปรดติดต่อ
สำนักงานของเจเอเอฟ ในญี่ปุ่นที่ใกล้ที่สุด
เพื่อขอรายละเอียด http://www.jaf.or.jp/e/index_e.htm
ส่วนแผนที่ทางด่วนในมหานครโตเกียวนั้น
ที่เป็นภาษาอังกฤษจะหาได้โดยติดต่อที่
เมโทรโพลิตัน เอ๊กซเพรสเวย์ พับลิค คอร์ปะเรชั่น
โทร. 03-3502-7311 http://www.shutoko.jp/english/

Driving in Japan
http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/transportation/auto/car_rental.html
เสื้อผ้าที่ควรเตรียมนำไป
ฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง จะต้องเตรียมแจ๊กเก็ต
และสะเว็ตเตอร์กันหนาว ฤดูร้อนให้เตรียมเสื้อผ้า
บางเบา แขนสั้น ฤดูหนาว จำเป็นต้องมีเสื้อคลุม
โอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ๊กเก็ตชนิด
หนาเป็นพิเศษ ตลอดจนสะเว็ตเตอร์สำหรับ
ฤดูหนาวไม่ค่อยจำเป็น ที่จะต้องนำเสื้อผ้า
สำหรับใช้อย่างเป็นพิธีรีตอง หรือพิธีการ
จำพวกทักซิโดและเสื้อราตรี หากเกิดความ
จำเป็นก็มีร้านให้เช่า ถุงเท้าสะอาดและ
สมบูรณ์เป็นสิ่งจำเป็นเพราะว่ามีบ่อยครั้ง
ที่ท่านจำเป็นจะต้องถอดรองเท้าออก
เช่นตามภัตตาคารญี่ปุ่นบางแห่ง
หรือเมื่อก้าวเข้าบริเวณ ชานหน้าบ้าน
ของชาวญี่ปุ่นก่อนเข้าห้องรับแขก
การนำเข้าสิ่งของโดยปลอดภาษี
การนำเข้าสิ่งของโดยปลอดภาษี ของใช้ส่วนตัว
และอุปกรณ์ประกอบอาชีพ สามารถนำเข้าไป
ในญี่ปุ่นได้โดยปลอดภาษี นอกจากนี้
ท่านยังสามารถนำเข้าโดยปลอดภาษี
มีบุหรี่ 400 มวน ยาสูบ 500 กรัม หรือ
ซิการ์ 100 มวนเครื่องดื่มมีอัลกอฮอล์ 3 ขวด
น้ำหอม 2 ออนซ์ตลอดจนของที่ระลึก
ซึ่งตีราคารวมกันแล้วไม่ถึง200,000 เยน
หรือเทียบเท่า บุคคลที่อายุยังไม่ถึง 19 ปี
และอายุเพียง 19 ปี ไม่อนุญาต
ให้นำเข้าบุหรี่หรือเครื่องดื่มมีอัลกอฮอล์
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากเว็ปไซท์
: http://www.narita-airport.jp/en/bf/step/arr.html#step5
กระแสไฟฟ้าในญี่ปุ่น
กระแสไฟฟ้าในญี่ปุ่น ตามบ้านเรือนทั่วๆ ไป
ใช้กระแสไฟฟ้า 100 โวลท์ ชนิดกระแสสลับ
ทั่วประเทศแต่มีความถี่สองขนาด คือ
ภาคตะวันออกเช่น โตเกียว นิกโก้ โยโกฮาม่า
ใช้ 50 เฮิร์ชภาคตะวันตก เช่น
เกียวโต โอซาก้า นาราใช้ 60 เฮิร์ช
โรงแรมในญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองใหญ่
จะมีปลั๊กไฟสองระบบ คือ 110 และ 220 โวลท์
ให้ใช้แต่เต้าเสียบ มักจะใช้ชนิดสอง
ขาเแบบแบนเท่านั้นโรงแรมมีเครื่องเป่าผม
และเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆให้ใช้ฟรี
หรือมิฉะนั้น โรงแรมใหญ่ๆจะมีเครื่องเป่าผม
ให้ใช้ฟรีแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ มีให้เช่า

หมายเหตุ : โปรดระลึกไว้เสมอว่า
• ไปไหนมาไหนในญี่ปุ่น ต้องพกผ้าเช็ดหน้าหรือ
กระดาษทิชชูเสมอ ร้านอาหารในญี่ปุ่นจำนวนมาก
ไม่บริการผ้าเช็ดมือ มีบริการแต่เพียง "โอชิโบริ"
เท่านั้น (ผ้าร้อนเช็ดมือ)
• ส้วมสาธารณะตามริมถนน หรือในสถานีรถไฟ
มิใช่จะมีกระดาษชำระหรือกระดาษเช็ดมือไว้
บริการทุกแห่งเสมอไป
• โรงแรมระดับดีจะมีอุปกรณ์ใช้ส่วนตัวบางอย่าง
ให้ใช้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องเช่าได้แก่ เครื่องเป่าผม
และเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า
• น้ำก๊อกในญี่ปุ่นทุกแห่งปลอดภัยดื่มได้
น้ำแร่มีจำหน่ายทั่วไป

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ : http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/essential/index.html
บริการข่าวสารการท่องเที่ยว

สัญลักษณ์ V Information Center
ศูนย์ข่าวสารการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น
เป็นสำนักงานให้ข่าวสารการท่องเที่ยวและ
ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยว
ชาวต่างประเทศขณะอยู่ในญี่ปุ่นตามเมืองต่างๆ

"วี" อินฟอร์เมชั่นเซ็นเตอร์ เครื่องหมายนี้
เป็นที่สังเกตตั้งอยู่ตามสถานีในเมืองต่างๆ
ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษได้

บริการล่าม-มัคคุเทศก์
ต้องการมัคคุเทศก์ที่มีใบอนุญาต
ติดต่อที่สมาคมมัคคุเทศก์แห่งประเทศญี่ปุ่น
โทร. 03-3213-2706 หรือแฟกซ์ 03-3213-
2707 สหพันธ์มัคคุเทศก์มีใบอนุญาตแห่ง
ประเทศญี่ปุ่นโทร. 03-3380-6611
แฟกซ์. 03-3380-6609
(วันจันทร์-วันศุกร์ 10.00-17.00 น.)

มัคคุเทศก์อาสาสมัคร (Goodwill Guide)
เป็นบริการฟรี ที่ดำเนินงานโดยอาสาสมัคร
ทั่วญี่ปุ่นที่จะพานักท่องเที่ยวชมสถานที่
ในเมืองต่างๆโดยเฉพาะในโตเกียว ที่
Tokyo Met.Area SGG club
จะมีบริการให้ข้อมูลล่าสุด อีกทั้งแผนที่นำเที่ยว
พร้อมคำแนะนำ และวางแผนการเดินทาง
ให้อย่างเป็นกันเอง สอบถามรายละเอียดที่ตั้ง
และเวลาทำการของศูนย์โดยตรง
ทางโทรศัพท์หมายเลข 03-3842-5566 หรือ
ติดต่อทางเว็บไซต์ www2.ocn.ne.jp/~sgg/index.html (Tokyo)
หรือที่ Japan Guide Association (www.jga21c.or.jp/index_e.html)

นอกจากนี้แล้วยังมีบริการเดินเที่ยววัด Asakusa
และบริเวณข้างเคียงในเวลา 1 ชั่วโมง
ทุกวันอาทิตย์จำนวน 2 รอบ เวลา 11.00 น.
และ 14.00 น.ผู้ที่สนใจโปรดติดต่อที่ศูนย์ก่อน
เวลาเริ่มทัวร์ดูรายละเอียดได้ที่
www2.ocn.ne.jp/~sgg/guide.html
และอีกรายการหนึ่งเป็น ทัวร์สวนUeno
ในเวลา 90 นาที ทุกวันอาทิตย์, วันพุธ,
วันศุกร์วันละ 2 รอบ 10.30 น. และ 13.30 น.

ศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยวในญี่ปุุ่น
(Tourist Information Center)

การท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในเมือง
ท่องเที่ยว จะมีศูนย์บริการให้ข้อมูลการ
ท่องเที่ยว ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
ตามสถานีแต่ละเมืองในเมืองโตเกียวมี
Tourist Information Center (TIC) ที่ซึ่ง
ดำเนินงานโดยองค์การส่งเสริมการ
ท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น จะบริการ
ให้ข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว และเอกสาร
แนะนำที่พัก และอื่นๆ แต่ไม่สามารถทำการ
จองต่างๆ ทุกประเภท
ตั้งอยู่ที่ : 10th FL.,Tokyo Kotsu KaiKan
Bldg.,2-10-1, Yuraku Cho,Chiyoda-Ku,
Tokyo 100-0006เปิดบริการทุกวัน
09.00–17.00 น. โทร. (03)3201-3331

ในท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
มีศูนย์บริการให้ข้อมูลการท่องเที่ยว
(TIC) 2 แห่ง เปิดให้บริการทุกวัน
Terminal 1 ชั้น 1 (ผู้โดยสารขาออก)
โทร. (0476) 30-3383 เวลา 08.00-20.00
Terminal 2 ชั้น 1 (ผู้โดยสารขาเข้า)
โทร. (0476) 34-5877 เวลา 08.00-20.00

ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ
ชั้นผู้โดยสารขาเข้า

อาคาร Passenger Terminal
โทร (0724) 56-6025 เปิดให้บริการทุกวัน
เวลา 08.30-20.30  (เมษายน – ตุลาคม)
เวลา 09.00-21.00  (พฤศจิกายน – มีนาคม)

นอกจากนี้ยังมีศูนย์ข่าวสารการ
ท่องเที่ยว ที่ดำเนินงานโดย
มหานครโตเกียว ตั้งอยู่ใน
อาคารมหานครโตเกียว ชั้น 1
เปิดบริการทุกวันเวลา 09.30-18.30 น.
(ยกเว้นวันสิ้นปีหรือวันปีใหม่)

Tokyo Tourist Information Center (TTIC)
โทร. 03-5321-3077

TTIC ในสถานี KEISEI UENO

อยู่ด้านหน้าประตูขายตั๋ว
เปิดบริการทุกวัน 09.30–18.30 น.
โทร. 03-3836-3471

TTIC ในสนามบิน HANEDA Airport
อยู่ชั้น 1 อาคาร BIG BIRD
เปิดบริการทุกวัน 09.00–22.00 น.
โทร. 03-5757-9345
http://www.metro.tokyo.jp/ENGLISH/PROFILE/policy08.htm
http://www.tourism.metro.tokyo.jp/
(ภาษาอังกฤษ)

TIC Tokyo
ที่ตั้ง Marunouchi Trust Tower

North1F. 1-8-1 Marunouchi, 
Chiyoda-ku Tokyo เปิดทำการเวลา
10.00-19.00 น. โทร. 03-5220-7055
email : info@tictokyo.jp
http://www.tictokyo.jp/en/

ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวในเมือง
โอซาก้า OSAKA
Osaka Visitors' Information Center,

Namba ที่ตั้ง 542-0076 Nankai Terminal
Bldg. 1F, 5-1-60 Namba, Cnuo-ku,
Osaka เปิดทำการเวลา 9:00-20:00 น.
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร.06-6631-9100แฟกซ์ 06-6631-9110
www.yokosojapan.org/event/may09-06.html

Keywords: บริการข้อมูลในญี่ปุ่น,
บริการข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น,
สอบถามข้อมูลในญี่ปุ่น,
เคาเตอร์เซอร์วิสนักท่องเที่ยว,
japan tourist information
บริการไปรษณีย์


บริการไปรษณีย์ของญี่ปุ่นให้ความสะดวก
ในการติดต่อทางจดหมาย และบริการ
ไปรษณีย์ด่วน EMS ทั้งในญี่ปุ่นและระหว่าง
ประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริการบริษัท
เอกชนเปิดให้บริการ เช่น ดีเอชแอล
และเฟดเอ็กซ์ ที่บริการสะดวก รวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพ วิธีเลือกใช้บริการ
ของบริษัทหนึ่งๆ จะขึ้นอยู่กับสินค้าหรือพัสดุที่ส่ง

อินเตอร์แนชชั่นแนลพาร์เซล โพสต์ หรือ
บริการส่งพัสดุไปรษณีย์ทางอากาศ
น้ำหนักสูงสุดต่อหนึ่งห่อต้องไม่เกิน
20 กิโลกรัม ส่งไปได้ทั่วโลก ชนิดของ
สิ่งของที่บรรจุในหีบห่อ และน้ำหนัก
สูงสุดชิ้นหนึ่งที่ประเทศปลายทาง
ยอมรับนั้นอาจจะแตกต่างกันไป
แล้วแต่ประเทศฉะนั้นก่อนส่งควร
จะตรวจก่อนเพื่อความถูกต้อง
โดยสามารถขอดูราย

ละเอียดได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง
เว็บไซต์ของบริการไปรษณีย์ www.post.japanpost.jp/english/index.html
ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นคือ นักท่องเที่ยว
สามารถเบิกเงินด้วยบัตรเครดิตต่างๆ
จากเครื่อง Yucho ATM ซึ่งเป็นบริการ
ของธนาคารไปรษณีย์ญี่ปุ่น
(JAPAN POST BANK) ในสถานีรถไฟหลัก
เปิดบริการวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา
05.00-23.40 น. วันอาทิตย์และ
วันหยุดตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น.

ตารางค่าส่งไปรษณีย์ระหว่างประเทศทางอากาศ

ปลายทางเอเซีย/กวมอเมริกาเหนือ อเมริกากลางโอเชียเนีย ยุโรป ตะวันออกกลางอัฟริกา อัฟริกาใต้
ไปรษณียบัตร70 เยน70 เยน70 เยน
กระดาษแอโรแกรม90 เยน90 เยน90 เยน
จดหมาย (สูงสุด 25 กรัม)90 เยน110 เยน130 เยน
จดหมาย (สูงสุด 50 กรัม)160 เยน190 เยน230 เยน
บริการโทรศัพท์


บริการโทรศัพท์สาธารณะในญี่ปุ่นมีอยู่แทบทุก
หนทุกแห่ง ท่านสามารถใช้บริการโทรศัพท์
สาธารณะ ในการติดต่อได้ทั้งในญี่ปุ่นและ
ต่างประเทศ วิธีใช้ที่สะดวกก็คือ การซื้อ
บัตรโทรศัพท์ ซึ่งมี 2 ราคา คือ 500 เยน
และ 1,000 เยน บัตรชนิดนี้หาซื้อได้ตามร้าน
สะดวกซื้อ โทรศัพท์สาธารณะสามารถใช้เหรียญ
100 เยนได้ ค่าโทรศัพท์ในประเทศ คิดนาทีละ
10 เยน ถ้าเกินกว่านั้น จะมีเสียงเตือนว่าหมดเวลา
หากไม่หยอดเหรียญเพิ่มหรือไม่สอด
บัตรเพิ่มจะถูกตัดโดยอัตโนมัติ ถ้าหยอดเหรียญ
100 เยนลงไปไม่มีการทอนเงินค่าโทรศัพท์
ระหว่างเมืองต่อเมืองในญี่ปุ่น แตกต่างกันแล้ว
แต่ระยะทางใกล้ไกล ค่าโทรศัพท์ในประเทศ
ถ้าใช้ตอนกลางคืนจะถูกกว่าตอนกลางวัน
และใช้ระหว่างวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุด
ราชการก็ถูกกว่าวันธรรมดา
โทรตรง
สามารถโทรทางไกลระหว่างประเทศโดยตรง

(Direct Call) ได้จากโทรศัพท์สาธารณะที่มีเครื่องหมาย
โทรระหว่างประเทศ และในประเทศ
(International and Domestic Telephone sign)
ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามสนามบิน โรงแรม และแหล่ง
ท่องเที่ยวต่าง ๆ สามารถโทรตรง ผ่านบริษัท
โทรศัพท์ผู้ให้บริการโดยใช้หมายเลขของบริษัทนั้นๆ

โทรใช้บัตรเครดิต
สามารถใช้บิตรเครดิตการ์ด กับเครื่องโทรศัพท์

ที่มีเครื่องหมายโทรระหว่างประเทศ และในประเทศ
(International and Domestic Telephone sign)
โดยหยอดเหรียญ 100 เยนก่อน (ได้รับคืนเมื่อโทรเสร็จ)
แล้วกดหมายเลขของบริษัทโทรศัพท์ผู้ให้บริการ
เนื่องจากธุรกิจโทรคมนาคมมีการแข่งขันสูง
อัตราการโทรและระบบต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

บริษัทผู้ให้บริการ

SoftBank Telecom
http://www.softbanktelecom.co.jp/

KDDIwww.kddi.com/english/telephone/index.htm

หมายเลขสำหรับโทร และสอบถาม
Direct dialCredit cardผ่าน
โอเปอเรเตอร์
สอบถาม
KDDI 001-010005500510057
SoftBank Telecom0061-0100043-(0120)-030061
NTT Communications 0033-0100034-112-(0120)-505506

โทรศัพท์มือถือ
สามารถใช้โทรศัพท์มือถือของท่านในญี่ปุ่นได้

ในบริเวณที่มีบริการ 3G ของบริษัท SoftBank Mobile
หรือ DOCOMO วิธีใช็ก็คือให้นำซิมการ์ดของท่าน
เสียบในโทรศัพท์มือถือที่เช่ามาหรือเครื่องโทรศัพท์
มือถือ 3Gของท่านเองรายละเอียดเพิ่มเติม
โปรดติดต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทีท่านใช้อยู่
โทรศัพท์มือถือมีให้เช่าเมื่อท่านเดินทางมาถึงสนามบิน
นาริตะ หรือคันไซ โปรดติดต่อบริษํทดังต่อไปนี้

G-Call:Compare and Save with G-Call

JAL ABC RENTAL PHONE

PuPuru (Japanese Mobile Phone Rentals)
(สามารถเช่าได้จากเมืองไทยผ่านบริษัทตัวแทนเช่น Accord Travel Service Co.,Ltd โทร 02-234-9595)NTT DoCoMo International Roaming Center
TEL: 03-3830-1453 or toll free 0120-654-100SoftBank Global Rental


หมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นประโยชน์ในการเดินทาง
หมายเลขฉุกเฉิน
ตำรวจ ฉุกเฉิน 110
ของหาย
Lost and Found
(03) 3814-4151 
ข้อมูลทั่วไป (03) 3501-0110 (Japanese/English)
(03) 3503-8484 (English & Several Other Foreign Languages)
ไฟใหม้/รถพยาบาย119
ข้อมูลโรงแรม (03) 5285-8181
ขอความช่วยเหลือ
The Japan Help-Line
(0120) 461-997
                         
การสื่อสาร
รถไฟชินกันเซน 107
ไปรษณีย์กลาง 0570-046-111
ข้อมูลการใช้ชีวิตประจำวัน
ศูนย์ข้อมูล  (045) 671-7209  (Japanese/English)
 
 ข้อมูลการคมนาคม
ข้อมูลเที่ยวบิน Haneda(03) 5757-8111(Japanese/English)
Narita(0476) 34-5000 (Japanese/English)
Kansai(0724) 55-2500 (Japanese/English)
JR East Infoline(03) 3423-0111
 (Japanese/English/Chinese/Korean)
Lost & FoundTokyo Metro (03) 3834-5577
JR(03) 3231-1880
Taxi(03) 3648-0300(Japanese)
TOEI Bus/Subway(03) 3812-2011
ข้อมูลจราจร (0570) 011-011(Japanese)
Highway(03) 3506-0111
ข้อมูลรถไฟใต้ดิน (03) 3837-7046
เที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวญี่ปุ่น
บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีแผนก
ทัวร์นำเข้าจากต่างประเทศ มีความชำนาญ
ในการบริการ และจัดการเรื่องความสะดวกต่างๆ
แก่ลูกค้า เป็นบริษัททัวร์ที่ภูมิใจในประสิทธิภาพ
ของตนเอง ซึ่งมีมาตรฐานสูงแบบมืออาชีพ
ได้แก่ เจแปนแทรเวลบิวโร เจแปน
อะเมนนิตี้แทรเวลและบริษัททัวร์ชั้นนำอื่นๆ
อีกมีบริการนำเที่ยวมากมายหลากหลายรายการ
โดยมีมัคคุเทศก์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ ดังนี้

บริษัท Japan Grey Lines 
โทร. 03-3595-5939,
www.jgl.co.jp/inbound/index.HTM


บริษัท Sunrise Tours (JTB) ซึ่งมีทัวร์
หลากหลายเริ่มต้นด้วยทัวร์ครึ่งวันชมเมือง
ไปจนถึงทัวร์ยาวสองสัปดาห์นำชมทั่วประเทศ
โดยมีมัคคุเทศก์พูดภาษาอังกฤษ หากจะผสม
รายการทัวร์ดังกล่าวเข้ากับวันที่ต้องการเป็น
"วันอิสระ" ได้ โปรดติดต่อโดยตรงที่โตเกียว โทร.03-5796-5454 ตลอด 24 ช.ม.
หรือโทร.0800-888-5454 (โทร.ฟรี )
จาก 5 ม.ค.-28 ธ.ค.
หรือ www.jtb-sunrisetours.jpนอกจากนั้น
ยังมีการจัด Exciting Ninja Tour
 ซึ่งติดต่อโดยตรงที่ HATO BUS
โทร. 03-3435-6081 เวลา 09.00-19.00 น.
หรือตรวจรายการเที่ยวที่ www.hatobus.com/en/index.html 
บริษัท HEJ เป็นบริษัททัวร์ชั้นนำที่มีการจัดทัวร์
Ninja Lesson เป็นทัวร์ฝึกฝนแบบ
นินจาด้วยตัวเองโดยมีมัคคุเทศก์อธิบายเป็น
ภาษาอังกฤษรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://hisexperience.jp/ 
การเที่ยวโดยรถแท็กซี่ท่องเที่ยว
มีบริการจัมโบ้แท็กซี่เช่าท่องเที่ยวตาม
เส้นทางต่างๆรถใหญ่นั่งได้ 6-9 คน
โทร.จองได้ที่หมายเลขโทรฟรี
0120-81-8552 หรือแฟกซ์ 03-3896-8181

การเที่ยวโดยรถทัวร์ 2 ชั้น 
ชมเมืองโตเกียว (Sky Bus)
เปิดให้บริการทุกวัน รถออกทุกๆ ชั่วโมง ตั้งแต่
09.30-18.00 น. ค่าโดยสารผู้ใหญ่ท่านละ
1,500 เยน เปิดจำหน่ายตั๋วเวลา 09.00 น.
ทุกวันที่ชั้น 1 ของอาคารมิทสุบิชิ ตรงข้ามจาก
ทางออกมะรุโนะอุจิด้านใต้ของสถานีโตเกียว
รถออกหน้าอาคารใช้เวลา 45 นาที
ในการนั่งชมเมืองบนรถโคช 2 ชั้น
ผ่านพระราชวังย่านกินซ่าและมะรุโนะอุจิ
ข้อมูลเพิ่มเติมหรือ
แผนผังการเดินรถได้ที่
http://skybus.jp/explains/index/00033
 เว็บไซต์และลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
 เว็บไซต์ JAPANiCAN.com ปรับปรุงใหม่
เพิ่มข้อมูลที่พัก

เว็บไซต์การท่องเที่ยวภาษาอังกฤษ Japan Travel Wizard โดย Kinki Nippon Tourist (KNT)

Japan Holiday Tours

Club Tourism – Yokoso Japan Tour
การเที่ยวชมวิทยาการ
ท่านสามารถเข้าไปชมโรงงานอุตสาหกรรม
หรือห้องทำงานของช่างฝีมือทางศิลปหัตถกรรม
แบบประเพณีนิยมได้ โดยการติดต่อล่วงหน้า
เมืองที่ขอแนะนำการชมโรงงานอุตสาหกรรม
ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า และนาโงย่า
และเมืองที่ขอแนะนำ ชมการผลิตศิลปหัตถกรรม
แบบประเพณีนิยม ก็คือ เกียวโตโรงงานผู้ผลิต
มักจะมีห้องโชว์สินค้า ตั้งอยู่ตามย่านชุมนุมชน
ในเมืองใหญ่ ซึ่งมีสินค้าไฮเทคโนโลยีของ
ญี่ปุ่นที่ออกใหม่ล่าสุดแสดงให้ชม เช่น รถยนต์
คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ต่างๆ
รวมทั้งหุ่นยนต์ด้วย

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์
และลิงค์ต่อไปนี้

www.jnto.go.jp/eng/arrange/attractions/amusement/vehicles.htmlJapan's Industries (PDF)

Ceramic Art & Crafts (PDF)

Contemporary Architecture in Japan (PDF)

Animation in Japan (PDF)

Enjoying Bonsai & Horticulture (PDF)

ขอแนะนำเว็บไซต์เพื่อการท่องเที่ยวในเชิง อุตสาหกรรมของจังหวัดจิบะJapan for Free (PDF)


ดูบริษัททัวร์ที่จัดไปเที่ยวญี่ปุ่นและสายการบินที่บินจากกรุงเทพฯไปญี่ปุ่น คลิกที่นี่ !!
เอาใจเด็กๆและวัยรุ่นกันหน่อย รายชื่อสวนสนุก คลิกที่นี่ !!

เสน่ห์อีกประการหนึ่งของ ญี่ปุ่น อาจจะกล่าวได้ว่า
อยู่ที่รสโอชะของอาหาร อันมีแหล่งผลิต
จากวัตถุดิบธรรมชาติ คือท้องทุ่งนา ไร่ผักผลไม้
เรื่อยไปจนถึงทะเลและมหาสมุทร ซึ่งเรือประมงใช้อวน
ลากเอาสัตว์น้ำนานาชนิด มาปรุงเป็นอาหาร
จากความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ของการดำรงชีพ
ได้นำไปสู่การค้นคว้าปรับปรุงรสชาติ และคุณค่า
ของอาหารอย่างยาวนาน ต่อเนื่องมาหลายศตวรรษพอๆ
กับการปรับปรุงการให้บริการ จนยกระดับกลายมาเป็นศิลปะ
อีกชนิดหนึ่ง แม้แต่อาหารพื้นธรรมดาๆ ก็ยังมีรสนิยมในการ
จัดวางบนภาชนะ ให้ดูสวยงามน่ารับประทานที่สุด
อาหารจานต่างๆ เช่น ซุชิ หม้อร้อน เทมปุระ หรือไก่ปิ้งเสียบไม้
ร้านขายซุชิมีมากมาย และขายดีที่สุดในบรรดาร้านอาหาร
ทั่วประเทศแต่ถ้านำปลามาปรุงอาหารจาน อื่นๆ
ย่อมมิใช่อาหารหลักแน่ๆต้องเป็นปลากับข้าวสุกเท่านั้น
จึงจะเหมาะสมที่สุดภัตตาคารและร้านอาหารต่างๆ
บริการอาหารรสชาติเยี่ยมท่านสามารถวางใจได้
ในเรื่องบริการที่ไม่มีข้อตำหนิใดๆตลอดจนมาตรฐานด้าน
สุขอนามัย ที่สูงสุด และน้ำประปาจากก๊อก
ที่สะอาดปลอดภัยสามารถดื่มได้ทันที
แนะนำร้านอาหารและอาหารแบบต่างๆ

ภัตตาคารระดับไฮคลาส
ส่วนใหญ่ภัตตาคารญี่ปุ่นระดับนี้
จะตั้งอยู่ในโรงแรมที่ดีที่สุด หรือในย่านแฟชั่นหรู โก้เก๋
ของชุมชนใหญ่ๆเช่น ถนน Ginza ใน โตเกียว
ย่าน Roppongi หรือ Asakusa

ROBATAYAKI คือร้านขายอาหารทะเล และของปิ้งย่าง
บนเตาถ่านที่เปิดโล่งตรงหน้าลูกค้า และมักจะเสิร์ฟโดยการ
ใช้ช้อนด้ามยาวส่งอาหารที่ย่างสุกแล้ว ลงไปในจานของลูกค้า

IZAKAYA ร้านเหล้าที่ขายอาหารแบบญี่ปุ่นตามเมนูเช่น
Yakitori ของ ทอดหรือของปิ้งอื่นๆ อาหารจานเดียว
จะมีขายตามซุ้มขายบะหมี่ ร้านค็อฟฟี่ช็อฟ และ
ร้านอาหารฟาสท์ฟู้ด นอกจากนี้ ยังมีเครื่องกดปุ่ม
ขายอาหารและเครื่องดื่มอัตโนมัติ ซึ่งมีอาหารและ
เครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายอย่าง อีกทั้งราคาถูกด้วย
ตามร้านอาหารส่วนใหญ่ท่านต้องจ่ายเงินค่าอาหาร
ก่อนออกจากร้าน มีไม่มากนักที่บางร้าน ให้ท่านซื้อ
คูปองอาหารก่อน แล้วยื่นให้แก่พนักงานเสิร์ฟ
การชำระค่าอาหารต้องใช้เงินสด หรือบัตรเครดิต
(สำหรับร้านที่รับ) แต่ส่วนใหญ่ร้านอาหารราคาไม่แพง
ค็อฟฟี่ช็อปและร้านฟาสท์ฟู้ด จะรับแต่เงินสดเท่านั้น
นอกจากการรับประทานอาหาร ตามภัตตาคารญี่ปุ่นแล้ว
อาหารจานเดียวก็น่าสนใจ เช่น

OBENTO (อาหารกล่อง) เป็นอาหารที่มีรสชาติแบบท้องถิ่น
มีจำหน่ายตามสถานีรถไฟต่างๆ
สามารถซื้อไปรับประทานระหว่างเดินทางบนรถไฟได้

KAITENZUSHI (ข้าวปั้นบนจานเวียนตามสายพาน)
มีความสด อร่อยแบบญี่ปุ่น รับประทานง่าย คิดราคาเป็นจาน

GYUDON (ข้าวราดหน้าเนื้อวัว) มีจำหน่ายตามร้าน
ที่ขายอาหารประเภทนี้โดยเฉพาะ เช่น Yoshinoya ที่มีอยู่ทั่วไป

RAMEN (บะหมี่จีน) มีจำหน่ายตามสถานีรถไฟ

ร้านสะดวกซื้อแบบเซเว่น อีเลฟเว่น มีแซนด์วิชอาหาร
กล่องมื้อกลางวัน และอาหารสุกชนิดอื่นๆ ที่ท่านสามารถ
ซื้อกลับไปที่พักได้หรือบนรถไฟได้

ร้านค้าที่ชั้นใต้ดินตามห้าง คือแหล่งที่เหมาะที่สุดสำหรับ
การลองชิมอาหารแปลกๆ หลากหลายฟรี

อาหารประเภททาโกยากิ
พิพิธภัณฑ์ทาโกยากิ

โอซาก้า เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์
ได้ชื่อว่าเป็นเมืองคุอิดาโอเระ หมายถึง คนที่อยู่ในเมืองนี้
ใส่ใจกับเรื่องอาหารการกินมากจนหมดตัว อาหารที่เป็น
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ โอซาก้า คือ ทาโกยากิ
ขนมครกแบบญี่ปุ่น ลูกกลมๆ ทำจากแป้งและปลาหมึก
ปัจจุบันนี้ทาโกยากิได้กลับมาเป็นจุดสนใจของคนทั่วไปอีกครั้ง
พิพิธภัณฑ์ทาโกยากิแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น
ได้เปิดขึ้นใกล้กับ Universal Studio Japan หรือเรียกสั้นๆ
ว่า USJ Osaka

http://www.yokosojapan.org/event/images/nov06-takoyaki.jpg

ร้านสาขาของทาโกยากิที่มีชื่อเสียงที่มีจำหน่าย
ในพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ ร้าน "ฮงเค ไอซึยะ"
เป็นเจ้าแรกที่ทำทาโกยากิขายในประเทศญี่ปุ่น
เมื่อปี ค.ศ. 1933 และร้าน "อะเมริกามุระ โคงะริว"
ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น โอซาก้า
ทาโกยากิที่จำหน่ายอยู่ที่นี่ต่างก็มีรสชาติที่โดดเด่น
เช่นรสซีอิ้ว รสไวน์ หรือรสเผือกเป็นต้น
ในหนึ่งจานมีทาโกยากิ 6 – 8 ลูก ราคาตั้งแต่ 300
เยนขึ้นไป ขอเชิญสัมผัสกับรสชาติที่แท้จริง
ของทาโกยากิ อาหารพื้นเมือง โอซาก้า ได้ ณ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้

สถานที่ : Universal City Walk Osaka ชั้น 4
เวลาเปิดและปิด : 11:00 น. – 22:00 น.
วิธีไป : ขึ้นรถไฟ JR จากสถานี โอซาก้า ราว10 นาที
ลงที่สถานี Universal City
ค่าเข้าขม : ฟรี
เว็บไซต์ : http://www.ucw.co.jp/otm/  (ภาษาญี่ปุ่น)

อาหารประเภท RAMEN
พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Momofuku Ando

http://www.yokosojapan.org/event/images/jan08-02-01.jpg

http://www.yokosojapan.org/event/images/jan08-02-02.jpg

พิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความ

เป็นมาและพัฒนาการของ Chicken Ramen หรือ
บะหมี่ไก่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดแรก
ของโลก รวมถึงการนำเสนอการวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลง
ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอื่นๆ อีกหลายชนิด นอกจากนี้
นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมโรงงาน 
My Cup Noodle Factory(เสียค่าเข้าชม)
และเพลิดเพลินกับการทำราเมนด้วยตนเอง
โดยสามารถเลือกเครื่องปรุง ส่วนผสม น้ำซุปต่างๆเพื่อ
ทำราเมนของตัวเองได้  และยังมีครัวสำหรับทำราเมนไก่
โดยผู้เข้าชมสามารถลองทำราเมนได้ 
โดยเริ่มตั้งแต่การนวดแป้งเพื่อทำเส้นราเมน 
(ต้องจองล่วงหน้าและเสียค่าใช้จ่าย)

เวลาทำการ : 9:30 - 16.00 น.

(เปิดให้เข้าจนถึง 15:30 น.)วันหยุด : ทุกวันอังคาร
(ถ้าวันอังคารเป็นวันหยุดแห่งชาติเลื่อนเป็นวันพุธ),
วันสิ้นปีและวันปีใหม่ ห้องครัวทำราเมนไก่ปิด
ทุกวันจันทร์และวันอังคาร
วิธีไป : จากสถานีรถไฟ Ikeda สาย Hankyu Takarazuka

เดิน 5 นาทีจากทางออก Masumi-cho

เว็บไซต์ : http://www.nissin-noodles.com/  

อาหารประเภทซูชิ
Shimizu Sushi Museum

http://www.yokosojapan.org/event/images/feb08-03-01.jpg

ลิ้มรสซูชิอร่อยๆ และเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมเรื่องซูชิได้ที่นี่
ท่าเรือชิมิซึ ที่จังหวัด ชิซุโอะกะ ได้ขึ้นขื่อว่าอาหารทะเลสด
และอร่อย และที่นี่ยังมี Shimizu Sushi Museum
ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า S - Pulse Dream Plaza 
โดยแบ่งเป็น 2 โซน

โซนแรกคือ Shimizu Sushi Yokocho ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้าน

ซูชิจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เรามีโอกาสสัมผัส
กับรสชาติของซูชิหลายๆ ชนิด
โซนนี้ไม่เสียค่าเข้าชมร้านอาหาร

อีกโซนหนึ่งที่เป็นพิพิธภัณฑ์ จะแบ่งเป็นอีกสองส่วน ส่วนของ

Sushigakudo จะเป็นศูนย์รวมความรู้เกี่ยวกับประวัติและ
วัฒนธรรมซูชิต่างๆ อีกส่วนคือ Sushidoujo
จะมีหนังสือและวีดีโอเกี่ยวกับซูชิโดยเฉพาะ

ไปชิมซูชิอร่อยๆ และเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมซูซิกันเถอะ

สถานที่ตั้ง : อยู่ในศูนย์การค้า S - Pulse Dream Plaza

13-15 Irifune - cho Shimizu - ku
Shizuoka - shi Shizuoka-ken 424-0942
วิธีไป : ลงที่สถานีรถไฟ JR Shimizu หรือ สถานนี

Shin-Shimizu สาย Shizuoka Tetsudo
บริการรถบัสรับส่ง ฟรี
จะมีรถบริการรับส่งฟรีจากสถานีรถไฟ

JR Shimizu และสถานนี Shin-Shimizu สาย Shizuoka 
Tetsudo ผ่าน S - Pulse Dream Plaza
ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เวลาเปิดทำการ : 11:00-18:00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก

(เด็กประถม - ประถมปีที่ 4) 200 เยน
รายละเอียดเพิ่มเติม: 054-354-3360
เว็บไซต์
ภาษาญี่ปุ่น : http://www.dream-plaza.co.jp/amusement/sushi/sushi_top.html
ภาษาอังกฤษ : http://www.shizuoka-guide.com/english/area_guide/ detail.asp?a3_id= 5&tbl=s&m_id=233&t_id=


ข้อมูลที่ควรรู้ ที่ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.)
ใบไม้ส่วนใหญ่ จะเริ่มเปลี่ยนสีจาก
สีขาวเป็นสีเหลืองส้มหรือแดง
ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมดต้น
ใบของต้นไม้บางชนิดเช่น ใบอิโจ
(แปะก้วย) จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อน
จะร่วงหล่นจนหมดต้น ทำให้ธรรมชาติ
ในยามนั้น งดงามด้วยสีที่สดใสตระการ
ตาน่าภิรมย์ยิ่ง ซึ่งน่าจะเรียกเป็น
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าฤดูใบไม้ร่วง

ตามปกติใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี

จากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้
ของญี่ปุ่น ราวต้นเดือนตุลาคมจน
ถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
ซึ่งตรงกันข้ามกับดอกซากุระ
ที่จะเริ่มบานจากท้องถิ่นทางภาค
ใต้ขึ้นสู่ภาคเหนือ แต่ช่วงเวลาที่
ใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงเวลาที่
ดอกซากุระบาน จะคลาดเคลื่อน
แตกต่างกันไปในแต่ละปี
ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและ
อุณหภูมิในปีนั้นๆ

1.อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทจึซัน
ในภูมิภาคฮอกไกโด

ที่ตั้ง
: คะมิคะวะ-กุง ฮอกไกโด
การเดินทาง : โดยรถประจำทาง

จากสถานีรถไฟ JR คะมิคะวะ
ใช้เวลา 30 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ก.ย.-

ปลายเดือน ก.ย.
ข้อมูลน่ารู้ กล่าว กันว่า

ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยน
เป็นสีแดงก่อนทุกที่ในญี่ปุ่น
ทิวทัศน์ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วย
สีเขียวของไม้ใบเรียว
และสีเหลืองแดงของไม้ใบกว้าง
สลับสีกันอย่างงดงามดั่งภาพวาด
ของศิลปินเอก ใบไม้บนภูเขาคุโรดา
เกะนั้นใช้เวลากว่า 1 เดือนในการ
เปลี่ยนสีเป็นสีแดง ไล่จากยอดเขาเรื่อย
ลงมาถึงจุดขึ้นกระเช้าตรงเชิงเขา
จุดชมใบไม้แดงที่งดงามที่สุด
อยู่ตรงปากทางขึ้นเขาที่มีชื่อว่า
กินเซ็นได บริเวณนั้นยังมีแหล่งน้ำพุร้อน
อยู่กว่า 10 แห่ง เช่น น้ำพุร้อนโซอุงเคียว -
อนเซ็น หลังจากที่ชมใบไม้แดงแล้ว
ท่านยังสามารถแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้ง
เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามของ
ฮอกไกโดได้ด้วย

2.ทะเลสาบ โทะวะดะโกะ
ในภูมิภาคโทโฮะกุ

ที่ตั้ง
: เมืองโทะวะดะ จังหวัดอะโอะโมะริ
การเดินทาง : โดยรถประจำทาง
จากสถานีรถไฟ JR โมริโอกะ ใช้เวลา
2 ชั่วโมง 15 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.-
ปลายเดือน ต.ค.
ข้อมูลน่ารู้ ทะเลสาปแห่งนี้เป็นทะเลสาบ
แบบCaldera ชื่อCaldera นี้เป็นภาษา
สเปนมีความหมายว่าหม้อ ใช้เรียกพื้นที่
ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูก
ที่มีลักษณะยุบลงเป็นทรงคล้ายหม้อ
ซึ่งเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ
ทะเลสาบโทวาดาโกะ นั้นล้อมรอบ
ไปด้วยภูเขา สามารถขึ้นเรือท่องเที่ยว
เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของทะเลสาบ
ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยใบไม้แดง
สัญลักษณ์ของทะเลสาบโทวาดาโกะ
แห่งนี้ คือ รูปสลักสาวงาม
(โอโตเมะ โนะโซ) ซึ่งเป็นผลงานของ
ทากามุระโคทาโร่ ศิลปินระดับชาติ
ของญี่ปุ่นซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรพลาด
ในการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก บริเวณรอบๆ
มีโรงแรมและร้านขายของที่ระลึก
ซึ่งจะคึกคักมากเป็นพิเศษเมื่อเข้า
สู่ฤดูใบไม้แดงทั้งยังสามารถ
เพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อน
โทะวะดะโกะ และการเก็บแอปเปิ้ล
ผลไม้ขึ้นชื่อของ อะโอะโมะริ อีกด้วย

3.ซาโอ ในภูมิภาคโทโฮขุ

ที่ตั้ง
: เมืองยะมะงะตะ จังหวัดยะมะงะตะ
การเดินทาง : โดยรถโดยสารประจำทาง

จากสถานีรถไฟ JR ยะมะงะตะ ใช้เวลา
1 ชั่วโมง 30 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.-

ปลายเดือน ต.ค.
ข้อมูลน่ารู้ เทือกเขาซาโอ

เป็นเทือกเขาสวยงามเลื่องชื่อ
ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
ทอดผ่านจังหวัด มิยะงิ แลจังหวัด
ยะมะงะตะ นอกจากนั้น ในท้องถิ่นนี้
ยังมีน้ำพุร้อนเลื่องชื่อหลายแห่ง
ท่านสามารถใช้บริการกระเช้า
ของลานสกีฤดูหนาว เพื่อขึ้นไปชมใบไม้
แดงจากมุมสูงได้ การขับรถชมใบไม้แดง
โดยใช้เส้นทาง ซะโอ-เอโดไลน์ที่เชื่อม
ระหว่าจังหวัด มิยะงิ แลจังหวัด ยะมะงะตะ 
ตลอดเส้นทางมีความยาวทั้งสิ้น 26 กม.
เส้นนี้ท่านจะได้เต็มอิ่ม กับการชื่นชม
ความงามของใบไม้แดงอย่างเต็มตา
เนื่องจากในฤดูหนาวจะมีหิมะตกหนัก
จึงต้องปิดให้บริการในเส้นทาง
ช่วงเดือนพ.ย.ถึงเดือนเม.ย.
นับว่าเส้นทางเส้นนี้คุ้มค่า
กับการมาเยือนเป็นอย่างยิ่ง
จึงต้องปิดให้บริการในเส้นทาง
ช่วงเดือน พ.ย. ถึงเดือนเม.ย. 
นับว่าเส้นทางนี้คุ้มค่ากับการมา
เยือนเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ไม่ถนัดการปีน
เขาหรือไม่ชอบเดินเท้า
ก็สามารถเพลิดเพลินกับการชมใบ
ไม้แดงที่นี่ได้อย่างเต็มที่

4.น้ำตก อะกิอุโอะทะกิ
ในภูมิภาคโทโฮะกุุ

ที่ตั้ง
: เมืองเซนได จังหวัดมิยะงิ
การเดินทาง : โดยรถประจำทาง

จากสถานีรถไฟ JR เซนได 
ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.-

ต้นเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ แม้ประเทศญี่ปุ่น จะมีน้ำตก

ที่สวยงามอยู่มากมายหลายแห่ง
แต่น้ำตกอะกิอุโอะทะกิที่มีสายน้ำกว้าง
6 เมตรและตกลงมาจากความสูงกว่า
55 เมตรแห่ง เมืองเซนได นี้ ได้รับการ
กล่าวขานว่ามีความงดงามมากเป็นพิเศษ
เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
มวลหมู่ต้นไม้รอบๆน้ำตกจะถูก
แต่งแต้มไปด้วยสีแดงเขียว และเหลือง
ทำให้ทิวทัศน์บริเวณนั้นงดงาม
ประหนึ่งภาพในฝันใบของต้นโอจิ
(แปะก้วย)และ โมมิหยิ(เมเปิ้ล)
ซึ่งเป็นตัวแทนของใบไม้แดงสลับ
สีกันดูงามตายิ่ง
แถบอากิอุ ยังขึ้นชื่อในเรื่องน้ำพุร้อน
และละแวกใกล้เคียง ยังมีแหล่งรวม
ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของอะกิอุ
ซึ่งสาธิตวิธีการผลิต และจำหน่าย
สินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อของ เซนได 
เช่น ตุ๊กตาโคเคชิ และตู้ไม้เซนได เป็นต้น

5.บันไดอะซุมะ-สกายไลน์
ในภูมิภาคโทโฮะกุ

ที่ตั้ง : เมืองฟุกุชิมะ จังหวัดฟุกุชิมะ
การเดินทาง : โดยรถยนต์

จากสถานีรถไฟJR ฟุกุชิมะ
ใช้เวลา 40 นาที
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.-

ปลายเดือน ต.ค.
ข้อมูลน่ารู้ บันไดอะซุมะ-สกายไลน์

เป็นชื่อถนนเส้นทางพิเศษ ที่ให้บริการ
นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เป็นเส้นทางที่
เหมาะ กับการขับรถชมใบไม้แดงเป็น
อย่างยิ่ง สูงจากระดับน้ำทะเล 1500 ม.
และมีความยาวทั้งสิ้น 29 กม. เชื่อม
ระหว่างแหล่งน้ำพุร้อนทะกะยุ ใน
เมืองฟุกุชิมะ กับเส้นทางขึ้นเขาทสุจิยุ
จากจุดชมวิวอะซุมะฮักเก มองลงมา
จะเห็นป่าใบไม้แดงที่แสนงดงาม
ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว
จากทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก
เดินทางมาชื่นชมความงดงามของที่นี่
น้ำพุร้อนที่อยู่ในละแวกนั้น
ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน
ออกไปด้วย

6. นิกโก้ ในภูมิภาคคันโตุ

ที่ตั้ง : เมืองนิกโก้ จังหวัดโทะจิงิ
การเดินทาง : โดยรถโดยสารประจำทาง

จากสถานีรถไฟ JR นิกโก้
ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ช่วงเวลา : กลางเดือน ต.ค.-

ปลายเดือน ต.ค.
ข้อมูลน่ารู้ นิกโก้ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง

มาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้านิก
โก้โทโชงู ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน
เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่ นิกโก้ 
มีจุดชมใบไม้แดงหลายแห่ง
ในตัวเมืองมีต้นอิโจ (แปะก้วย)
ขึ้นเรียงรายและตรงถนนขึ้นเขา ที่มีชื่อว่า
อิโรฮะซะกะ ก็ได้รับการกล่าวขานว่า
เป็นเส้นทางชมใบไม้หลากสีที่งดงาม
ที่สุดในภูมิภาคคันโต และสถานที่ที่อยาก
แนะนำให้เดินทางไปชม คือน้ำตกริวซุ
ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบจูเซ็นจิโกะ "ริวซุ"
มีความหมายว่า หัวมังกร เนื่องจากด้าน
หน้าของแอ่งน้ำตก มีหินก้อนใหญ่ขวาง
ทางอยู่ ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาถึงจุด
นั้นถูกแยกออกเป็นสองทาง
ลักษณะคล้ายหัวมังกร ตรง
ส่วนหัวของมังกรมีต้น
ไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ เมื่อใบไม้บริเวณนั้น
เปลี่ยนเป็นสีแดง ก็จะทำให้มองเห็นเป็น
หัวมังกรสีแดงด้วย

7.สวน เมจิจิงงุไกเอง
ในภูมิภาคคันโต

ที่ตั้ง : เขตมินะโตะ กรุงโตเกียว
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานีรถไฟ

JR ชินะโนะมะจิ หรือสถานีรถไฟใต้ดิน
ไกเองมะเอะ
ช่วงเวลา : กลางเดือน พ.ย.- 

ปลายเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ แม้แต่ใจกลางกรุงโตเกียว

ท่านก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้
ที่สวนยิงงูไกเอ็งแห่งนี้ มีต้นอิโจ
(แปะก้วย) กว่า 140 ต้น ขึ้นเรียงราย
ทั้งสองข้างทางอย่างสวยงาม อิโจ
(แปะก้วย) จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็น
สีเหลืองและในที่สุดก็ร่วงลงสู่พื้นดิน
จนทางเดินจะกลายเป็นสีเหลือง
ในช่วงเวลานี้จะมีการจัด
"งานเทศกาลชมใบอิโจ" ขึ้น ใน
กรุงโตเกียว ไม่เพียงแต่สวน
จิงงุไกเอง ยังสามารถชมใบไม้แดง
ที่สวนชินจูกุเกียวเอ็ง สวนสาธารณะ
โยะโยะงิ สวนสาธารณะฮิบิยะ ฯลฯ
ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับท่าน
ที่มีโอกาสเดินทางมาติดต่อธุรกิจที่
ญี่ปุ่น แต่ไม่มีเวลาเดินทางไปนอกเมือง
จะแวะเวียนไปชมใบไม้เปลี่ยน
สีได้อย่างสะดวก

8.ทะเลสาบ คะวะงุจิโกะ
ในภูมิภาคจูบุ

ที่ตั้ง : มินะมิทสุรุ-กุง จังหวัดยะมะนะชิ
การเดินทาง : โดยรถยนต์

จากสถานีรถไฟด่วนสายฟูจิคิวโค
คะวะงุจิโกะ ใช้เวลา 20 นาที
ช่วงเวลา : ต้นเดือน พ.ย.-

กลางเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ ทะเลสาบ คะวะงุจิโกะ

นอกจากจะเป็นสถานที่ขึ้นชื่อ
ในการชมภูเขาไฟฟูจิคิวโค
ซึ่งทัวร์จากประเทศไทย นิยมพา
นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมแล้ว
ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้แดง
ที่มีชื่อเสียงมากอีกด้วย ภูเขาไฟฟูจิ
ที่ยอดเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
ตัดกับสีของใบไม้แดงนั้น เป็นภาพ
ทิวทัศน์ที่แสดงออก ถึงความเป็นญี่ปุ่น
ได้เป็นอย่างดี ใบไม้แดงแถบนี้เกือบ
ทั้งหมดเป็นใบของ ต้นโมะมิยิ (เมเปิ้ล)
ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มที่
จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบโมะมิยิขึ้น
ในค่ำคืนช่วงเวลาที่มีงาน จะประดับไฟ
จนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่ม ทำให้
บรรยากาศดูโรแมนติคราวกับอยู่ในฝัน
ในละแวกใกล้เคียงยังมี สวนสนุก
พิพิธภัณธฑ์ศิลปะ อยู่มากมายหลายแห่ง
และใกล้กับแหล่งน้ำพุร้อนฟูจิคาวางุจิโกะ
ยังมีโรงแรมแบบญี่ปุ่นที่มีบ่อน้ำพุร้อน
ให้บริการอยู่มากมาย

9.ที่ราบสูง ชิระคะบะ และวีนัสไลน์
ในภูมิภาคจูบุุุ

ที่ตั้ง  : คิตะซะกุ-กุง จังหวัดนะงะโนะ
การเดินทาง  : โดยรถประจำทางจาก

สถานีรถไฟ JR ซะคุไดระ
ใช้เวลา1 ชั่วโมง
ช่วงเวลา  : กลางเดือน ต.ค.-

ปลายเดือนต.ค.
ข้อมูลน่ารู้ จังหวัดนะงะโนะ มีภูเขาสูง

มากมาย ทำให้ในฤดูหนาวมีนักท่องเที่ยว
เดินทางมาเล่นสกี ส่วนในฤดูใบไม้ร่วม
ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมใบไม้แดง
กันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในสถานที่
ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมใน
จังหวัดนะงะโนะ คือ ที่ราบสูงชิราคาบะ 
จุดชมใบไม้แดงที่อยู่บนที่ราบสูงแห่งนี้
ได้แก่ ทะเลสาบทาเตชินาโกะและ
ภูเขาทาเตชินะ ผู้ที่ไม่สะดวกที่จะ
เดินเท้าขึ้นไป ก็สามารถใช้บริการกอน
โดร่าลิฟท์จากฟาร์ม ทาเตชินะ
ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ในการเดินทาง
ไปยังที่ราบสูงชิราคาบะนั้น จะต้องใช้เส้น
ทางพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า
วีนัสไลน์ ซึ่งเป็นถนนที่มีความยาวทั้งสิ้น
76 กม. ท่านจะได้เพลิดเพลินกับใบ
ไม้แดงระหว่างที่รถวิ่งอยู่บนเส้นทาง
วีนัสไลน์จากที่ราบสูงชิระคะบะ
ไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใกล้เคียง
นอกจากรีสอร์ตชิราคาบะ และ
แหล่งน้ำพุร้อนแล้วยังมีสถานที่
ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆอีกเช่น
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
และสวนพฤษศาสตร์

10. อะระชิยะมะ ในภูมิภาคคันไซ

ที่ตั้ง  : เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
การเดินทาง  : เดินทางจากสถานีรถไฟ

JR ซะงะอะระชิยะมะ ใช้เวลา 10 นาที
ช่วงเวลา  : กลางเดือน พ.ย.-

ปลายเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ ในเมืองหลวงเก่า เกียวโต 

ก็มีสถานที่ชมใบไม้แดงอยู่หลายแห่ง
เช่นกันแต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ
ใบไม้แดงที่ อะระชิยะมะ ทุกคนที่
เดินทางมาที่นี่จะต้องไม่พลาด
ที่จะถ่ายรูปกับสะพานโทเง็ทสึเคียว
โดยมีภูเขาอะระชิยะมะเป็นฉากหลัง
นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังนิยม
ใช้บริการรถไฟโทร็อกโกะ
เพื่อชมใบไม้แดงที่ อะระชิยะมะ 
อีกด้วย เนื่องจากในเกียวโตมีวัด
และศาลเจ้าอยู่เป็นจำนวนมาก
จึงสามารถชมความงามของใบ
ไม้แดง ในวัดต่างๆได้ เช่น
วัดคิโยมิซุ วัดกิงคาคุจิ 
ศาลเจ้าชิโมงาโมะ วัดนันเซ็นจิ เป็นต้น

11.ศาลเจ้า
โคโตฮิระงุในภูมิภาคชิโกะกุุุ

ที่ตั้ง  : นะกะตะโดะ-กุง จังหวัดคะงะวะ
การเดินทาง  : เดินจากสถานีรถไฟ

JR โคโตฮิระ ใช้เวลา 15 นาที
ช่วงเวลา  : กลางเดือน พ.ย.-

ปลายเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมา

เยือนเกาะชิโกกุกว่า 3 ล้านคน สถานที่
ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ของที่นี่
คือศาลเจ้าโคโตฮิระงู แต่คนญี่ปุ่นเรียกที่
แห่งนี้ว่า "คอมปิระซัง" ศาลเจ้า
โคโตฮิระงูนั้นตั้งอยู่ลึกเข้าไปใน
ภูเขาโซซุผู้ที่เดินทางมาไหว้พระที่นี่
จะต้องขึ้นบันไดกว่า 800 บั้น ซึ่งตลอด
ทางขึ้นบันไดท่านจะได้ชมความงาม
ของใบเมเปิ้ลสีแดง
ในวันที่ 10 พ.ย. ของทุกปี
จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้แดงขึ้น
ซึ่งงานเทศกาลของที่นี่
จะแตกต่างจากงานเทศกาลของ
ที่อื่นตรงที่ จะมีการทำพิธีอย่างเคร่งครัด
ตามแบบอย่างที่สืบทอดกันมาตั้งแต่
โบราณภูมิภาคนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่อง
เส้นอุด้งซึ่งท่านสามารถลองทำเส้น
อุด้งด้วยตัวเองได้นอกจากนั้นยัง
สามารถตระเวนไปชิมเส้นอุด้งที่ขึ้น
ชื่อว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น
ตามร้านต่างๆ ได้อีกด้วย

12.สวนสาธารณะโมะมิยิดะนิ
เกาะมิยะจิมะในภูมิภาคจูโงะกุุ

ที่ตั้ง
  : ซะเอกิ-กุง จังหวัดฮิโรชิม่า
การเดินทาง  : เดินทางจากสถานี

JR มิยะจิมะงุจิ 5 นาที
เพื่อขึ้นเรือข้ามไป
ยังเกาะมิยะจิมะ แล้วเดินต่อ
ไปอีก 20 นาที
ช่วงเวลา  : กลางเดือน พ.ย.-

ปลายเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ สวนสาธารณะโมะมิยิดะนิ

ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้า อิทสุกุชิมะ
ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ด้านวัฒนธรรม ในสวนแห่งนี้มีต้น
โมะมิยิ (เมเปิ้ล) กว่า 200 ต้น
จุดที่สวยที่สุดคือสะพานโมมิหยิ
ตรงทางเข้าสวนในทุกๆ
ปีจะมีการจัดงานเทศกาลชมใบ
ไม้แดงแต่จะอยู่ภายในช่วงกลาง-
ปลายเดือน พ.ย. ซึ่งวันที่จัดจะ
แตกต่างกันไปในแต่ละปี
ของฝากที่มีชื่อเสียงของ ฮิโรชิม่า คือ
"โมะมิยิมันจู" (ขนมไข่รูปโมมิหยิ)
ซึ่งมีจำหน่ายที่นี่มากมาย

13.น้ำพุร้อน อุนเซนในภูมิภาคคิวชิวุุ

ที่ตั้ง  : เมืองอุนเซน จังหวัดนะงะซะกิ
การเดินทาง  : โดยรถประจำทางจาก

สถานีรถไฟJR อิซะฮะยะ
ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ช่วงเวลา  : ปลายเดือน ต.ค.-

ต้นเดือน พ.ย.
ข้อมูลน่ารู้ สีแดง ส้มและเหลือง

ของใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ มีความ
งดงามมากถึงขนาดหากมองไกลๆ
อาจเข้าใจผิดจะคิดไปว่าเป็นดอกไม้
ได้เป็นเพราะที่นี่มีต้นไม้ที่ใบเปลี่ยน
สีถึง 150 กว่าชนิดหากมองลงมาจาก
ยอดเขาคุนิมิดะเกะภาพที่เห็นจะยิ่ง
สร้างความประทับใจมิรู้ลืมแถบนี้มี
ชื่อเสียงมาก ในฐานะที่เป็นแหล่ง
น้ำพุร้อนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่ได้รับ
การขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ
จึงมีทั้งโรงแรมแบบญี่ปุ่นและโรงแรม
แบบสากล เปิดให้บริการอยู่มากมาย
สามารถเลือกที่ถูกใจได้ นอกจากนั้น
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ 
อีก เช่น ฮุสเทนบอส ซึ่งเป็นรีสอร์ตที่
จำลองบรรยากาศแบบยุโรปใน
ยุคกลางที่จะแวะไปสัมผัสบรรยากาศได้ 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ http://www.jnto.go.jp/eng/indepth/about/overview/index.html

คำถามที่พบกันบ่อยๆ

1. ญี่ปุ่นมีภูมิอากาศและอุณหภฺมิ
แต่ละเมืองเป็นอย่างไร
คำตอบ
อุณหภูมิแต่ละเมืองท่องเที่ยว จะตรวจดู
ได้จากเวปไซท์ต่อไปนี้
http://www.wunderground.com
2. จะชมซะกุระในญี่ปุ่นได้ช่วงไหน
คำตอบ
ในฤดูใบไม้ผลิ
(เดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม)
ดอกซากุระมักจะบานช่วงปลายเดือน
มีนาคมและเมษายนของปี หรืออาจจะ
เป็นช่วงสงกรานต์ในบริเวณทางตอน
เหนือของญี่ปุ่น ทุกๆปีกรมอุตุนิยมวิทยา
ของญี่ปุ่นจะพยากรณ์ช่วงเวลาที่
ดอกซากุระผลิดอก และจะประกาศ
ให้ทราบล่วงหน้าดอกซากุระจะ
เริ่มบานจากทางภาคใต้เรื่อยขึ้น
ไปทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างกันไปใน
แต่ละปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ
ช่วงเวลาที่ระบุจึงเป็นเพียง
การประมาณการณ์เนื่องจากไม่มี
ใครรู้แน่ชัดว่าดอกซากุระจะบานเมื่อไร
ระยะเวลาที่ดอกซากุระบานแตกต่าง
กันไปตามสายพันธุ์ใน 1 ปี
ดอกซากุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น
ดูพยากรณ์ช่วงเวลาที่ซากุระบานได้ที่:
www.japan-guide.com/e/e2011_when.html
http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html
ดูสถานที่ที่ซากุระบานสวยงามได้ที่:
www.yokosojapan.org/event/sakura1.html  
3. ใบไม้แดงจะเริ่มชมได้แถบไหน
และเมื่อไร
คำตอบ
ตามปกติ ใบไม้แดงจะเริ่มเปลี่ยนสีจาก
ภาคเหนือลงสู่ ภาคตะวันออก
เฉียงเหนือลงมาภาคตะวันออก
ต่อไปภาคตะวันตกลงสู่ภาคใต้
ของญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
กระทั่งสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
หากอากาศไม่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป
จะเที่ยวชมได้ตามสวนสาธารณะ วัด
และศาลเจ้าในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ
หรือตามอุทยานแห่งชาติ
เช่นแถบนิกโก้ ทะเลสาบโทวะดะ
และแถบที่ราบสูงเทือกเขานอกเมือง
ชมรายละเอียด
ของจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีได้ที่
www.yokosojapan.org/event/redleaf1.html
4. ไปชมภูเขาฟูจิที่ไหนและอย่างไร
คำตอบ
ภูเขาฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น
มีความสูงถึง 3,776 เมตร บริเวณที่จะ
ชมทิวทัศน์ได้ชัดมีหลายที่
ทั้งเมืองรอบๆเขตอุทยานแห่งชาติ
ฟูจิฮะโกะเนะอิซุ และรอบ
ทะเลสาบทั้ง 5 ได้แก่
ทะเลสาบยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ
โมะโตะสุโกะ โชจินินโกะ ไซโกะ
รอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเดินทางไป
โดยรอบได้ด้วยรถไฟสายโอดะคิว
และผู้ที่สนใจไต่ภูเขาไฟฟูจิ
ขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อม
ภูเขาฟูจิเปิดให้ขึ้นไปปีนเขาเที่ยวชม
ในช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม
ของทุกปีและจากสถานีคะวะงุจิโกะ
จะมีบริการรถบัสประจำทาง
ไปถึงสถานีชั้น 5ของภูเขาไฟฟูจิ
ดูรายละเอียดบัตรโดยสาร
และการเดินทางได้ที่ www.odakyu.jp/english/
ชมรายละเอียดของสถานที่ต่างๆรอบภูเขาฟูจิ
ได้ที่
www.yokosojapan.org/event/may08-01.html
5. ในฤดูร้อนจะชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์
ได้ที่ไหน และช่วงเวลาใด
คำตอบ
ที่เกาะฮอกไกโดจะมีเมืองฟุระโนะ
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง
ซัปโปโร จะกลายเป็นทุ่งดอกไม้
สีม่วงลาเวนเดอร์สวยงามมาก
ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม
ของทุกปี ซึ่งเป็นฤดูร้อนที่เย็นสบาย
และสวยงาม
http://kanko.pref.hokkaido.jp/flower/english/index.html
6. อยากไปสัมผัสหิมะควรไป
ที่ไหนบ้าง
คำตอบ
หิมะตกในฤดูหนาว (เดือนธันวาคม-
เดือนกุมภาพันธ์) ฤดูหนาวมีเทศกาล
ประจำฤดูตามเมืองต่าง ๆ และการ
ประดับไฟ เช่นเทศกาลหิมะที่
เกาะ ฮอกไกโดในช่วงต้น
เดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลประดับ
โคมไฟที่ปราสาทฮิโระซะกิ (Hirosaki)
และเทศกาลคะมะกุระ (Kamakura)
ที่เมืองโยะโกะเตะ (Yokote)
จังหวัดอะกิตะช่วง กลางเดือน
กุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถ
เยี่ยมชมกระท่อมหิมะยามราตรี
ที่สวยงามน่าประทับใจ นอกจากนี้
ยังมีกิจกรรมในฤดูหนาวเช่น
การเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล
และการเล่นเพลิดเพลินกับหิมะ
ดูรายละเอียดการเล่นสกีได้ที่
www.yokosojapan.org/event/dec07-06.html
7. การใช้เจอาร์เรลพาสแบบ
ทั่วประเทศและบริษัทตัวแทน
จำหน่ายในกรุงเทพฯ
คำตอบ
การใช้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เดินทาง
ไกลข้ามจังหวัดหรือไปหลายจังหวัด
สามารถใช้กับรถไฟด่วนชินคันเซน
และรถไฟฟ้าเจอาร์ในเมืองโตเกียว
หรือ โอซาก้าและรถบัสเจอาร์
ในเกียวโต ได้ด้วย ยกเว้นรถไฟ
ใต้ดินและรถไฟของเอกชน
บริษัทตัวแทนก็มีหลายบริษัท
ในกรุงเทพฯ ซี่งจะตรวจได้ในห้วข้อ
บริษัททัวร์และสายการบินในเว็บไซต์นี้
สำหรับตารางรถไฟ
ตรวจได้จากเว็บไซต์
http://www.hyperdia.com หรือ
http://www.japanrailpass.net
8. ค่าโดยสารรถไฟด่วน
ชินคันเซนจากโตเกียว ถึงชินโอซาก้า 
และเวลาที่ใช้ในการเดินทาง
คำตอบ
ค่าโดยสารเป็นจำนวนเงิน  13,750 เยน
ต่อเที่ยวเดียว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.japanrail.com
9. การจองที่พักต้องทำอย่างไร
คำตอบ
สามารถจองที่พักผ่านทางเว็บไซต์
ได้ตามปรกติเหมือนการท่องเที่ยวที่อื่นๆ
เว็บไซต์จองที่พักเป็นภาษาอังกฤษ
ที่อำนวยความสะดวกสำหรับ
นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอ
ดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของ JNTO
www.jnto.go.jp/a-search/search/search_form.php
และอ่านเรื่องประเภทของ
ที่พักที่มีให้บริการได้ที่
www.yokosojapan.org/about/accomodation.htm
10. การเดินทางจากโตเกียว
ไปดีสนีย์แลนด์ จะไปได้อย่างไร
และใช้เวลาเท่าไร
คำตอบ
ไปได้โดยใช้รถไฟฟ้าเจอาร์สายเคโย
จากสถานีโตเกียวไปยังสถานีไมฮะมะ
ใช้เวลา 20 นาที ก็สามารถเดิน หรือ
ต่อรถไฟฟ้าสายรีสอรท์ไลน์ไปยังสวนสนุก
ทั้งสองแห่งได้
www.tokyodisneyresort.co.jp/index_e.html

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ http://www.yokosojapan.org/ และ
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว
แห่งประเทศญี่ปุ่น
(Japan National Tourism
Organization)
หน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและ
ให้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งเอกสาร
แผนที่ของสถานที่ท่องเที่ยว
อีกทั้งแนะนำที่พักในญี่ปุ่น
ที่อยู่ : ชั้น 19 อาคารรามาแลนด์
952 ถ.พระราม 4 กทม. 10500
เวลาทำการ : วันจันทร์–วันศุกร์
(ยกเว้นวันหยุดราชการ)
เวลา 09.00 – 17.00 น.
เวลา 09.00 – เวลา 09.00 – 12.00 น.
ให้บริการข้อมูลทางเคาน์เตอร์โดยเจ้าหน้าที่
เวลา 09.00 – เวลา 09.00 – 17.00 น.
รับเอกสารการท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
(12.00 – 17.00 ไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ)
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2233-5108, 0-2235-3321
แฟกซ์ : 0-2236-8356
อีเมล์ : info@japantourist.org